TikTok for All อัปเดตเทรนด์พร้อมที่มาที่ไป เพื่อสร้างแพลตฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์
TikTok for All อัปเดตเทรนด์พร้อมที่มาที่ไป เพื่อสร้างแพลตฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์
5 ก.พ. 2567
SHARE WITH:
5 ก.พ. 2567
5 ก.พ. 2567
SHARE WITH:
SHARE WITH:
TikTok for All อัปเดตเทรนด์พร้อมที่มาที่ไป เพื่อสร้างแพลตฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์
เราตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับข่าวกระเพื่อมวงการโซเชียลมีเดียที่ว่า TikTok ซัพพอร์ตด้วยการเพิ่มบูสต์ให้กับวิดีโอรูปแบบแนวนอนและความยาวมากกว่า 1 นาทีขึ้นไป ซึ่งนับว่าผิดจากพฤติกรรมการใช้งานช่วงก่อนหน้ามักจะถ่ายจากสมาร์ทโฟนและไถดูแบบเร็วๆ
วันนั้นเป็นวันเดียวกันกับที่เราได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดตัว ‘TikTok For All’ แนวคิดของแพลตฟอร์มที่สนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เราจึงได้อัปเดตเทรนด์พร้อมกับเหตุผลสนับสนุนที่อาจจะช่วยให้คุณได้ครีเอตคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่เข้าใจและเข้าเป้ามากกว่าที่เคย
TikTok Thailand บอกกับเราว่า เวลาที่ผู้ชมอยู่กับคลิปใดๆ มากกว่า 1 นาที แสดงว่าคลิปนั้นมีคุณภาพมากพอหรือโดนใจมากพอที่ทำให้อยากดูจนจบ เพราะฉะนั้น 1 นาทีที่ว่าจึงเมคเซนส์กับการส่งเสริมให้ครีเอเตอร์สร้างคลิปที่มีคุณภาพที่ทำให้คนดูติดเราตลอด เพราะถ้าทำคลิปยาวเกิน 1 นาทีแต่ดึงคนดูไว้ไม่ได้ กลยุทธ์ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี
หรือแม้แต่การทำวิดีโอแนวนอนแบบ Full Screen Mode ซึ่งดูขัดกับวิสัยของ TikTok ที่อยู่กับหน้าจอแนวตั้งของสมาร์ทโฟนมาตลอด ก็ให้เหตุผลที่น่าสนใจว่า เป็นการเปิดมุมมองใหม่ในแนวทางสร้างสรรค์ให้กับการทำคลิป ด้วยมุมกล้องปกติสามัญที่ทำให้มองเห็นดีเทลกว้างขวางตามแนวสายตา ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งการสนับสนุนระบบนิเวศของความคิดสร้างสรรค์เช่นกัน
เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในประเทศไทย มีครีเอเตอร์มากกว่า 3 ล้านคนที่สร้างรายได้จากแพลตฟอร์มนี้ มีผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านคนที่ได้รับการสนับสนุนจาก TikTok ในปี 2564 และเราเองก็เริ่มสนุกกับคลิปที่เป็นมากกว่าความบันเทิง แต่ TikTok เองก็กำลังก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ให้กับผู้คนผ่านทรัพยากรที่มีในมือ ไปดูกันว่า TikTok for All จะสร้างแนวคิด TikTok for Smart Economy, Smart People และ Smart Environment ได้อย่างไร
IIIi - เทรนด์ของปีนี้ผ่านหน้าจอที่พกพาติดตัวไปทุกที่
ในปีนี้ TikTok Thailand ดูจะเน้นไปในการสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับวิสัยทัศน์ของประเทศ และด้วยศักยภาพของครีเอเตอร์ยุคใหม่ พื้นที่หน้าจอแห่งนี้จึงเป็นเหมือนผืนผ้าใบสำหรับบอกเล่าผลงานและความคิดได้อย่างไร้ขีดจำกัดและไร้พรมแดน
TikTok มองว่าตัวเองเป็นสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะด้วยรูปแบบของคอนเทนต์ที่เข้าถึงคนได้ง่าย รู้สึกใกล้ชิด และสนุกสนาน พื้นที่แห่งการเรียนรู้ในหน้าจอจึงแสดงออกถึงความจริงใจ ให้ความรู้ ไปพร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน นี่คือสิ่งที่ TikTok เรียกว่าการสร้างระบบนิเวศสร้างสรรค์
จุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้คือ การสร้างเครือข่ายผ่านความสนใจในสิ่งเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่นี่ผู้คนอาจไม่รู้จักกันเลยก็ได้ แต่เพียงแค่ชื่นชอบสิ่งเดียวกัน ครีเอเตอร์ก็สามารถบอกเล่าเนื้อหาในเรื่องที่ตนเองมีความรู้ หรือผู้ชมเลือกเสพสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ แล้วเราก็สามารถไถเจอความชอบที่ต้องการต่อไปได้อีกด้วยระบบ Machine-Learning
TikTok มองออกไปไกลอีกว่า แล้วความรู้เหล่านี้จะสร้างให้เกิดผลจริงได้อย่างไร นอกจากการสร้าง Social Impact หรือผลลัพธ์ทางสังคมในเชิงบวกแล้ว ยังต้องการเป็นพื้นที่ที่สนับสนุนครีเอเตอร์หน้าใหม่ในการผลิตผลงานสร้างสรรค์ที่สร้างแรงบันดาลใจ จากพื้นที่ออนไลน์จึงขยายสู่พื้นที่ออฟไลน์ที่ TikTok Creator House สยามพารากอน ชั้น 4 ซึ่งนับเป็นโมเดลแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยิ่งทำให้การเรียนรู้ในเรื่องที่สนใจสนุกและสร้างคอมมูนิตี้แบบเห็นผลจริง
หมวดหมู่สุดฮอตที่ TikTok มองว่าเป็นบทใหม่ที่ท้าทายความสร้างสรรค์ของครีเอเตอร์ในปี 2024 นี้ นอกจากเรื่องบันเทิงที่มาเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลแล้ว ยังเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวในประเทศ เมนูครีเอทีฟที่สามารถต่อยอดไปยังร้านค้าจริง ความสวยที่ตีความด้วยนิยามใหม่ วงการแฟชั่นไทยกับการทำงานร่วมกับแบรนด์ไทย หนังสือ กีฬาหลากหลาย และวงการเกมก็ยังเติบโตต่อเป็นวงกว้างเช่นเคย
IIIi - แพลตฟอร์มแห่งความน่าเชื่อถือ
พอพูดถึง TikTok แน่นอนว่าความบันเทิงเป็นเรื่องแรกที่ทุกคนคิดถึง ในปีนี้ TikTok วางแผนที่จะสร้างยุคใหม่ของ Trusted Entertainment Platform หรือแพลตฟอร์มความบันเทิงที่เชื่อถือได้ กับทั้งในหัวเรื่องบันเทิงและธุรกิจ
ความท้าทายของการทำงานกับความเชื่อถืออยู่ตรงที่ TikTok เป็นแพลตฟอร์ม UGC หรือ User-generated Content หรือผู้ใช้งานเป็นคนสร้างเนื้อหาเอง ทาง TikTok เองมีทั้งการตรวจสอบข้อมูลบิดเบือน (Misinformation) ด้วยระบบ Machine-Learning ร่วมกันกับ Human Moderator หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านความปลอดภัย และการรายงานจากผู้ใช้งาน (Self Report & Reinvestigation) เพื่อตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรองให้ได้ดียิ่งขึ้น
ในปีที่ผ่านมาเราเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ธุรกิจบน TikTok หรือ TikTok Shop ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ด้วยความง่ายดายและปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อโดยตรง หากแต่จุดนี้ก็ยังมีหลายเรื่องที่แพลตฟอร์มจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสนับสนุนผู้ค้ารายย่อยให้สามารถทำงานบนแพลตฟอร์มได้อย่างยั่งยืน
แผนงานด้านธุรกิจเป็นหนึ่งในแผนงานหลักของ TikTok ในปีนี้ โดยต้องการสนับสนุนผู้ค้ารายย่อยให้เติบโตได้อย่างมั่นคง จากการสำรวจข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค จึงออกมาเป็น Shoppertainment 2.0 ผ่าน Consumer Journey หรือประสบการณ์ของลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนการพบเจอจนถึงการตัดสินใจซื้อ สั้นขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ทั้งจากปัจจัยของสื่อกลางอย่างแพลตฟอร์ม แบรนด์ และการขาย
เริ่มต้นตั้งแต่แบรนด์สามารถสื่อสารเรื่องราวของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งจากเครื่องมือที่ช่วยให้นักการตลาดเข้าใจในการผลิตชิ้นงาน หรือ TikTok Works การลงโฆษณาที่มีการร่วมมือกับ Neilson เป็นผู้ช่วยในการวัดผลการโฆษณาพร้อมกันกับการวัดผลจากภายใน มุ่งผลให้ได้การวัดผลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งเสริมอีคอมเมิร์ซให้เติบโตขึ้น
แน่นอนว่าเทรนด์ในยุคนี้เปลี่ยนแปลงเป็นรายนาที นอกจากข้อมูลภาคนโยบายจากทางแพลตฟอร์ม การจับตามองข่าวสารความนิยมอยู่เสมอ แล้วสะสมข้อดีของแต่ละหัวเรื่องมาประยุกต์ให้เข้ากับอัตลักษณ์หรือความตั้งใจดีของแบรนด์ ก็ทำให้การสื่อสารในทางสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทุกคนอีกต่อไป
เราตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับข่าวกระเพื่อมวงการโซเชียลมีเดียที่ว่า TikTok ซัพพอร์ตด้วยการเพิ่มบูสต์ให้กับวิดีโอรูปแบบแนวนอนและความยาวมากกว่า 1 นาทีขึ้นไป ซึ่งนับว่าผิดจากพฤติกรรมการใช้งานช่วงก่อนหน้ามักจะถ่ายจากสมาร์ทโฟนและไถดูแบบเร็วๆ
วันนั้นเป็นวันเดียวกันกับที่เราได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดตัว ‘TikTok For All’ แนวคิดของแพลตฟอร์มที่สนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เราจึงได้อัปเดตเทรนด์พร้อมกับเหตุผลสนับสนุนที่อาจจะช่วยให้คุณได้ครีเอตคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่เข้าใจและเข้าเป้ามากกว่าที่เคย
TikTok Thailand บอกกับเราว่า เวลาที่ผู้ชมอยู่กับคลิปใดๆ มากกว่า 1 นาที แสดงว่าคลิปนั้นมีคุณภาพมากพอหรือโดนใจมากพอที่ทำให้อยากดูจนจบ เพราะฉะนั้น 1 นาทีที่ว่าจึงเมคเซนส์กับการส่งเสริมให้ครีเอเตอร์สร้างคลิปที่มีคุณภาพที่ทำให้คนดูติดเราตลอด เพราะถ้าทำคลิปยาวเกิน 1 นาทีแต่ดึงคนดูไว้ไม่ได้ กลยุทธ์ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี
หรือแม้แต่การทำวิดีโอแนวนอนแบบ Full Screen Mode ซึ่งดูขัดกับวิสัยของ TikTok ที่อยู่กับหน้าจอแนวตั้งของสมาร์ทโฟนมาตลอด ก็ให้เหตุผลที่น่าสนใจว่า เป็นการเปิดมุมมองใหม่ในแนวทางสร้างสรรค์ให้กับการทำคลิป ด้วยมุมกล้องปกติสามัญที่ทำให้มองเห็นดีเทลกว้างขวางตามแนวสายตา ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งการสนับสนุนระบบนิเวศของความคิดสร้างสรรค์เช่นกัน
เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในประเทศไทย มีครีเอเตอร์มากกว่า 3 ล้านคนที่สร้างรายได้จากแพลตฟอร์มนี้ มีผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านคนที่ได้รับการสนับสนุนจาก TikTok ในปี 2564 และเราเองก็เริ่มสนุกกับคลิปที่เป็นมากกว่าความบันเทิง แต่ TikTok เองก็กำลังก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ให้กับผู้คนผ่านทรัพยากรที่มีในมือ ไปดูกันว่า TikTok for All จะสร้างแนวคิด TikTok for Smart Economy, Smart People และ Smart Environment ได้อย่างไร
IIIi - เทรนด์ของปีนี้ผ่านหน้าจอที่พกพาติดตัวไปทุกที่
ในปีนี้ TikTok Thailand ดูจะเน้นไปในการสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับวิสัยทัศน์ของประเทศ และด้วยศักยภาพของครีเอเตอร์ยุคใหม่ พื้นที่หน้าจอแห่งนี้จึงเป็นเหมือนผืนผ้าใบสำหรับบอกเล่าผลงานและความคิดได้อย่างไร้ขีดจำกัดและไร้พรมแดน
TikTok มองว่าตัวเองเป็นสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะด้วยรูปแบบของคอนเทนต์ที่เข้าถึงคนได้ง่าย รู้สึกใกล้ชิด และสนุกสนาน พื้นที่แห่งการเรียนรู้ในหน้าจอจึงแสดงออกถึงความจริงใจ ให้ความรู้ ไปพร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน นี่คือสิ่งที่ TikTok เรียกว่าการสร้างระบบนิเวศสร้างสรรค์
จุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้คือ การสร้างเครือข่ายผ่านความสนใจในสิ่งเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่นี่ผู้คนอาจไม่รู้จักกันเลยก็ได้ แต่เพียงแค่ชื่นชอบสิ่งเดียวกัน ครีเอเตอร์ก็สามารถบอกเล่าเนื้อหาในเรื่องที่ตนเองมีความรู้ หรือผู้ชมเลือกเสพสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ แล้วเราก็สามารถไถเจอความชอบที่ต้องการต่อไปได้อีกด้วยระบบ Machine-Learning
TikTok มองออกไปไกลอีกว่า แล้วความรู้เหล่านี้จะสร้างให้เกิดผลจริงได้อย่างไร นอกจากการสร้าง Social Impact หรือผลลัพธ์ทางสังคมในเชิงบวกแล้ว ยังต้องการเป็นพื้นที่ที่สนับสนุนครีเอเตอร์หน้าใหม่ในการผลิตผลงานสร้างสรรค์ที่สร้างแรงบันดาลใจ จากพื้นที่ออนไลน์จึงขยายสู่พื้นที่ออฟไลน์ที่ TikTok Creator House สยามพารากอน ชั้น 4 ซึ่งนับเป็นโมเดลแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยิ่งทำให้การเรียนรู้ในเรื่องที่สนใจสนุกและสร้างคอมมูนิตี้แบบเห็นผลจริง
หมวดหมู่สุดฮอตที่ TikTok มองว่าเป็นบทใหม่ที่ท้าทายความสร้างสรรค์ของครีเอเตอร์ในปี 2024 นี้ นอกจากเรื่องบันเทิงที่มาเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลแล้ว ยังเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวในประเทศ เมนูครีเอทีฟที่สามารถต่อยอดไปยังร้านค้าจริง ความสวยที่ตีความด้วยนิยามใหม่ วงการแฟชั่นไทยกับการทำงานร่วมกับแบรนด์ไทย หนังสือ กีฬาหลากหลาย และวงการเกมก็ยังเติบโตต่อเป็นวงกว้างเช่นเคย
IIIi - แพลตฟอร์มแห่งความน่าเชื่อถือ
พอพูดถึง TikTok แน่นอนว่าความบันเทิงเป็นเรื่องแรกที่ทุกคนคิดถึง ในปีนี้ TikTok วางแผนที่จะสร้างยุคใหม่ของ Trusted Entertainment Platform หรือแพลตฟอร์มความบันเทิงที่เชื่อถือได้ กับทั้งในหัวเรื่องบันเทิงและธุรกิจ
ความท้าทายของการทำงานกับความเชื่อถืออยู่ตรงที่ TikTok เป็นแพลตฟอร์ม UGC หรือ User-generated Content หรือผู้ใช้งานเป็นคนสร้างเนื้อหาเอง ทาง TikTok เองมีทั้งการตรวจสอบข้อมูลบิดเบือน (Misinformation) ด้วยระบบ Machine-Learning ร่วมกันกับ Human Moderator หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านความปลอดภัย และการรายงานจากผู้ใช้งาน (Self Report & Reinvestigation) เพื่อตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรองให้ได้ดียิ่งขึ้น
ในปีที่ผ่านมาเราเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ธุรกิจบน TikTok หรือ TikTok Shop ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ด้วยความง่ายดายและปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อโดยตรง หากแต่จุดนี้ก็ยังมีหลายเรื่องที่แพลตฟอร์มจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสนับสนุนผู้ค้ารายย่อยให้สามารถทำงานบนแพลตฟอร์มได้อย่างยั่งยืน
แผนงานด้านธุรกิจเป็นหนึ่งในแผนงานหลักของ TikTok ในปีนี้ โดยต้องการสนับสนุนผู้ค้ารายย่อยให้เติบโตได้อย่างมั่นคง จากการสำรวจข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค จึงออกมาเป็น Shoppertainment 2.0 ผ่าน Consumer Journey หรือประสบการณ์ของลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนการพบเจอจนถึงการตัดสินใจซื้อ สั้นขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ทั้งจากปัจจัยของสื่อกลางอย่างแพลตฟอร์ม แบรนด์ และการขาย
เริ่มต้นตั้งแต่แบรนด์สามารถสื่อสารเรื่องราวของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งจากเครื่องมือที่ช่วยให้นักการตลาดเข้าใจในการผลิตชิ้นงาน หรือ TikTok Works การลงโฆษณาที่มีการร่วมมือกับ Neilson เป็นผู้ช่วยในการวัดผลการโฆษณาพร้อมกันกับการวัดผลจากภายใน มุ่งผลให้ได้การวัดผลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งเสริมอีคอมเมิร์ซให้เติบโตขึ้น
แน่นอนว่าเทรนด์ในยุคนี้เปลี่ยนแปลงเป็นรายนาที นอกจากข้อมูลภาคนโยบายจากทางแพลตฟอร์ม การจับตามองข่าวสารความนิยมอยู่เสมอ แล้วสะสมข้อดีของแต่ละหัวเรื่องมาประยุกต์ให้เข้ากับอัตลักษณ์หรือความตั้งใจดีของแบรนด์ ก็ทำให้การสื่อสารในทางสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทุกคนอีกต่อไป