'Haus Schwarzenberg' ตัวแทนของการต่อสู้เพื่อรักษาพื้นที่สำหรับคนตัวเล็ก และความหลากหลายทางวัฒนธรรมในเมืองใหญ่

'Haus Schwarzenberg' เป็นพื้นที่ชุมชนศิลปะที่ตั้งอยู่ในกรุงเบอร์ลิน อาคารถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งรวมงานศิลปะกิจกรรมสร้างสรรค์ ตั้งอยู่ในในย่าน Mitte ที่หรูหราและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ โดยพื้นที่แห่งนี้อยู่ในการดูแลของ Schwarzenberg e.V. เป็นสมาคมที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนและรักษาพื้นที่ศิลปะและวัฒนธรรม สมาคมนี้มีบทบาทสำคัญในการปกป้องเอกลักษณ์ของพื้นที่จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์และช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมอิสระในเมืองใหญ่ ท่ามกลางเมืองที่เผชิญกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ

เมื่อเราเดินเข้ามาภายในตรอกภายในของอาคาร จะเห็นซุ้มประตูขนาดเล็กของ Kino Central โรงหนังที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกที่เต็มไปด้วยกราฟิตี้ แต่รู้สึกถึงบรรยากาศที่ดูอบอุ่นโอบล้อมไปด้วยอาคารทรงคลาสิคตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลก ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงหนังขนาดเล็กๆ เก่าแก่ซ่อนตัวอยู่ในย่านที่เป็นถนนเศรฐกิจสำคัญในเบอร์ลิน ไฮไลท์ของที่นี่ช่วงฤดูร้อนจะมีการฉายภาพยนตร์แบบเปิดโล่งที่นี่ รวมถึงโรงหนังอิสระอื่นๆก็จะฉายหนังกลางแจ้งท่ามกลางทิวทัศน์เมืองที่สวยงามและเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาพักผ่อน มาดูหนังนอกบ้านสัมผัสกับอากาศที่เย็นสบาย จนเป็นกิจกรรมหลักของคนเมืองนี้ไปแล้ว

การชมภาพยนตร์ในโรงหนังอิสระที่ Berlin ถือเป็นเรื่องที่ดีและราคาไม่แพง เราได้พบกับภาพยนตร์อิสระมากมายให้เลือกชม ตลอดจนภาพยนตร์คลาสสิก ที่เป็นหนึ่งในความหลากหลายของวัฒธรรมการดูหนังของชาว Berliner ที่มีมุมมองว่า โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ชมภาพยนตร์เท่านั้น แต่โรงหนังเป็นเหมือนศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่ยังยืนหยัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชื่อเสียงของเบอร์ลิน ในฐานะเมืองแห่งภาพยนตร์ระดับโลกที่สามารถปลูกฝังจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์

วัฒนธรรมเหล่านี้ได้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นจนเติบโต เกิดเป็นเทศกาลหนังระดับโลกอย่าง Berlin Film Festival หรือที่รู้จักในชื่อ Berlinale เป็นหนึ่งในเทศกาลภาพยนตร์ที่สำคัญและทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เป็นเวทีที่เปิดกว้างสำหรับภาพยนตร์จากทั่วโลก ส่งเสริมการเล่าเรื่องที่แตกต่างและหลากหลาย ภาพยนตร์คือศาสตร์ที่สามารถเชื่อมโยงศิลปะหลากหลาย รวมถึงประเด็นสังคม การเมือง และสิทธิมนุษยชน ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่เบอร์ลินเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของชาวเยอรมันในการสนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรม ที่ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ต่างให้ความสำคัญ

llli KINO Central โรงภาพยนตร์อิสระในอาคารคลาสิค ที่มอบประสบการณ์แบบไม่ซ้ำใคร

ภาพยนตร์อิสระในประเทศเยอรมนีเริ่มได้รับความนิยมในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ช่วงเวลานี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวออกจากภาพยนตร์สตูดิโอแบบเดิมๆ โดยผู้สร้างภาพยนตร์อิสระพยายามค้นหาธลักษณะเฉพาะที่มีความเฉพาะตัว เริ่มมีเรื่องประเด็นสังคมและเรื่องการเมือง เล่าผ่านผลงานลงบนแผ่นฟิล์ม อีกทั้งในยุคนั้นเกิดลัทธิ German Expressionism ยุคที่มีงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของชาวเยอรมัน ได้ส่งอิทธิลมาถึงวงการภาพยนตร์ทำงานภาพยนตร์ของเยอรมันมีเอกลักษณ์โดดเด่นไปทั่วโลก เกิดการเติบโตของภาพยนตร์อิสระ ผู้คนให้ความสนใจในงานภาพยนตร์อย่างแพร่หลาย ซึ่งในยุคนั้นสื่อภาพยนตร์เป็นเหมือนพื้นที่แห่งการแสดงเสรีภาพที่ให้ผู้คนได้เปิดความคิด ที่เปลี่ยนไปตามบริบททางสังคมและการเมืองในประเทศและหลายทวีปทั่วโลก

Kino Central เป็นหนึ่งในโรงภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์และมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมการชมภาพยนตร์ของเมือง ด้วยบริเวณสถานที่ตั้งในบรรยากาศที่แตกต่างจากโรงภาพยนตร์ทั่วไป รอบๆเป็นอาคารยุคเก่าให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในช่วงเวลาที่วัฒนธรรมการดูหนังนอกบ้าน ได้ให้ประสบการณ์การชมภาพยนตร์แบบเป็นกันเองและเป็นส่วนตัว มีการจัดโปรแกรมฉายภาพยนตร์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ภาพยนตร์ศิลปะ (arthouse) สารคดี(Documentaries) ไปจนถึงภาพยนตร์คลาสสิกและการฉายภาพยนตร์แนวทดลอง ที่ทุกคนสามารถเลือกได้ตามรสนิยมส่วนตัวตามความชอบของแต่ละคน
ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์อิสระเองก็ได้มีต่อสู้ในฐานะพื้นที่ศิลปะที่ต้องเป็นอิสระและเข้าถึงได้ง่าย จากความหลากหลายของผู้คนในเมือง จำเป็นต้องมีพื้นที่ ที่เชื่อมโยงกันทางด้านศิลปะวัฒนธรรม ด้วยวัฒนธรรมความการชมภาพยนตร์ที่ไม่เหมือนใครของชาวเบอร์ลิน ทำให้เกิดช่องทางที่หลากหลาย เช่นโรงหนัง Babylon จะคัดเลือกภาพยนตร์เงียบและงานคลาสสิก หรือ โรงหนัง Wolf Kino ที่ผสมผสานโรงภาพยนตร์กับพื้นที่พบปะทางศิลปะ เป็นต้น

Kino Central เปิดโอกาสให้ผู้กำกับอิสระและนักสร้างสรรค์ภาพยนตร์ได้แสดงผลงาน สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้มีรากฐานที่มั้นคง มีการจัดโปรแกรมภาพยนตร์ในภาษาต้นฉบับพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ (หรือภาษาอื่น) ซึ่งดึงดูดผู้ชมจากหลากหลายชาติและ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติที่อาศัยในเบอร์ลิน การส่งเสริมเกิดวัฒนธรรม 'Kino-Kultur'(cinema culture) ของคนเบอร์ลิน พื้นที่จึงเป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ แต่เป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมอิสระและความคิดสร้างสรรค์ของเบอร์ลินได้อย่างสมบูรณ์แบบ เปิดประสบการณ์ให้กับผู้คนที่มาท่องเที่ยว คนต่างถิ่น ได้มาเรียนรู้และซึมซับวัฒนธรรมเหล่านี้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างและลึกซึ้งกว่าประสบการณ์การชมภาพยนตร์ทั่วไป

llli พื้นที่บันทึกประวัติศาสตร์ของคนตัวเล็ก และการมีอยู่ของวัฒนธรรมย่อย(Sub Culture) ในเยอรมัน

ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมใน Haus Schwarzenberg เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมอิสระและเสรีภาพทางความคิดในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองในฐานะศูนย์กลางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก หากสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปะข้างถนน หรือวัฒนธรรมร่วมสมัยในเบอร์ลิน ที่นี่ ป็นจุดนัดพบสำหรับศิลปินและผู้ที่สนใจวัฒนธรรมทางเลือก มีร้านหนังสือ ร้านขายงานศิลปะ คาเฟ่ และบาร์ที่สร้างบรรยากาศสร้างสรรค์และไม่เป็นทางการสามารถเข้าถึงได้ง่าย

พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และช่วงสงคราม ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งสำรวจชีวิตของชาวยิวในพื้นที่ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง คือ Museum Blindenwerkstatt Otto Weidt โดยมีรูปถ่ายและของที่ระลึกส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของ Weidt เรื่องราวและเอกสารเกี่ยวกับคนงาน ห้องลับเดิมที่ใช้ซ่อนครอบครัวชาวยิว เป็นเครื่องเตือนใจถึงความน่ากลัวในยุคนั้น และเป้นสถานที่สำคัญที่อนุรักษ์ความทรงจำของชุมชนยิวในเบอร์ลิน

llli Anne Frank ไดอารี่แห่งความหวังของเด็กสาว ที่พาผู้คนย้อนอดีตสู่บทเรียนแห่งการข่มเหงทางเชื้อชาติ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

เรื่องราวของ Anne Frank เด็กสาวที่มีงานเขียนบันทึกชีวิตตัวเองเล่าเรื่องราวความโหดร้ายของสงครามที่เธอหลบซ่อนตัวจากทหารนาซี โดยครอบครัวาอาศัยอยู่ในสถานที่ซ่อนตัวที่เรียกว่า "Secret Annex" ในอาคารที่พ่อของเธอทำงานอยู่ ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ซึ่งบ้านหลังนี้มี Otto Weidt นักธุรกิจที่ช่วยเหลือด้านที่พักที่ปลอดภัยให้กับชาวยิวจากการถูกไล่ต้อนกวาดล้าง Anne Frank จึงได้อาศัยอยู่ที่นี่เขียนบันทึกประจำวัน(Diaries) ไว้ตั้งแต่ปี 1942 ถึง 1944 หลังจากนั้นเธอครอบครัวก็ไม่รอดจากการถูกจับกุม ถูกทหารต้อนไปที่ค่ายเอาชวิทซ์ (Auschwitz) และเธอก็ได้มาเสียชีวิตที่ค่ายกักกัน Bergen-Belsen ที่เยอรมนี ต่อมาสมุดเล่มนี้ถูกค้นพบโดยพ่อของเขาที่รอดชีวิต เมื่อเขาได้อ่านและตัดสินใจส่งให้สำนักพิมพ์เพื่อเผยแพร่ผลงานของลูกสาว ทำให้บันทึกนี้กลายเป็นหนึ่งในเอกสารที่สำคัญที่สะท้อนชีวิตของชาวยิวในช่วงเวลานั้น จากมุมมองของเด็กสาวที่เผชิญกับความยากลำบากในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หนังสือตีพิมพ์และได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า “Anne Frank: The Diary of a Young Girl”

นิทรรศการถาวร "All about Anne" บอกเล่าเรื่องราวของ Anne Frank ผ่านการใช้สื่อหลายรูปแบบ เช่น ภาพถ่ายเอกสาร หนังสือ และวิดีโอการสัมภาษณ์เพื่อความเคารพต่อ Anne Frank มีบทบาทในการกระตุ้นการสนทนาในชุมชนเกี่ยวกับประเด็นการเหยียดเชื้อชาติ การต่อต้านการต่อต้าน และการคัดค้านการต่อต้านทั่วโลก ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การสัมมนา การอภิปราย การแสดง และการเยี่ยมชมพิเศษ ซึ่งช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวได้รับการศึกษาและตระหนักถึงประเด็นทางสังคมที่สำคัญ ช่วยส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์และการเรียนรู้ที่มากขึ้นในหมู่ผู้เข้าชม มีการโปรแกรมที่หลากหลายซึ่งออกแบบมาสำหรับโรงเรียนและศูนย์เยาวชนอีกด้วย

lli ยึดมั่นในคุณค่าของความอดทน ความคิดสร้างสรรค์ข้ามวัฒนธรรม เสรีภาพ และความหลากหลาย

Haus Schwarzenberg เป็นสถานที่ที่ประวัติศาสตร์ ปัจจุบัน และอนาคตเชื่อมโยงและเติมเต็มซึ่งกันและกัน ในการใบริหารพื้นที่ Schwarzenberg eV วิสัยทัศน์ของพื้นที่อิสระที่ศิลปะและวัฒนธรรมสามารถพัฒนาชีวิตที่สร้างความสมดุลระหว่างศิลปะและเชิงพาณิชย์ควบคู่กันเพื่อการดำรงอยู่ต่อไป ในการเผชิญหน้ากับเงื่อนไขทางการเมืองและทางสังคมที่ ได้ผ่านการต่อสู้ ความขัดแย้ง การถกเถียง แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากของสมาชิกสมาคม และทำให้การจะสร้างพื้นที่แห่งความหลากหลาย เพื่อให้คนเชื่อมั่นว่าเบอร์ลินจะยังคงเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ เป็นสถานที่ที่รับรู้และส่งเสริมความมั่งคั่งทางศิลปะวัฒนธรรม ที่พร้อมจะทำการตลาดแบบสร้างสรรค์ได้ด้วยตัวเอง

ในปัจจุบัน Haus Schwarzenberg ได้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเบอร์ลิน ตราบใดที่ผู้คนยังคงโหยหาพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ได้อย่างมีอิสระเสรีภาพ เพื่อขับเคลื่อนสังคม ที่แห่งนี้คือจุดร่วมที่กลุ่มศิลปินทั้งแนวหน้า ศิลปินเริ่มต้น วัยหนุ่มสาว ได้มาอยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมอาชีพ ผลงานศิลปะต่างๆในพื้นที่นี้ ก็เคยถูกสังคมตั้งคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางครั้งศิลปินและชุมชนก็อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเรียกร้องสิ่งที่ควรเป็น สิ่งเหล่านี้คือเรื่องปกติทางสังคม แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ภายใต้ ความเคารพ ความอดทน และความเปิดกว้าง รวมถึงการยอมรับอย่างชัดเจนเกี่ยวกับผลงานต่างๆที่เผยแพร่ออกไปในสังคมทั้งทางบวกและทางลบ

การสร้างพื้นที่ศิลปวัฒนธรรมที่มีแรงบันดาลใจสำหรับทุกคนคือการเติมพลังให้กับความหวังและความฝันในยุคสมัยใหม่ ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการแข่งขันจากมหาอำนาจที่มีอิทธิพลอย่างซับซ้อน การกลับมาสู่รากฐานทางความคิดและการเข้าใจในศิลปวัฒนธรรมจะช่วยให้เราได้สร้างโลกที่งดงามขึ้น โลกที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเข้าใจและยอมรับความแตกต่างหลากหลาย อีกทั้งยังเป็นการสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคมโลกได้อย่างเข้าใจในเพื่อนมนุษย์มากขึ้น

แหล่งอ้างอิงข้อมูล
haus-schwarzenberg.org 
monocle.com/film/culture/berlin-film-scene/
visitberlin.de